ขอนแก่น-“สหกรณ์ฯครู” แจง! คืนครบแล้วเงินบริจาคแรกเข้า 2,000 กว่าล้าน
“ดร.สนอง” ปธ.สหกรณ์ฯครู แก่นขอนแก่น แจงประเด็นของ นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว (ทนายแดง) ผู้ตรวจกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น อัดคลิปลงยูทูป ถามเงินของสหกรณ์ครูขอนแก่น กองทุนสวัสดิการ 2,400 ล้านหาย ไปไหน?กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ต้องเคลียร์&รับผิดชอบ 1 สิงหาคม 10 โมง เจอกันที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ริมถนนมิตรภาพ ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสนอง สุดสะอาด ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด เป็นประธานการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกองทุนสวัสดิการกสส 1-6 คสช 1-3 และเรื่อง อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง พร้อมทั้งผู้แทนสมาชิก และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ครูขอนแก่นจำกัด โดยมีนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด,นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษากรรมการบริหาร ฯ,นายศักดา เชาว์พานิช รองประธานฯ,นายวิเชียร ไกรศรีวัฒนะ รองประธานฯ,นายเพชรรัตน์ อ่างยาน เลขานุการฯ,นายวาสนา ไชยศึก รองผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด,นายเสถียร เคนชมภู ที่ปรึกษาฯ
และนางวลัยลักษณ์ อินนอก กรรมการฯ ร่วมกันแถลงข่าว โดยอ้างถึงหนังสือของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด
ที่ สอ.คขก 1259 /2565 สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เรื่อง ให้ผู้ตรวจสอบกิจการปฏิบัติตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เรียน นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว นายไพฑูทรย์ พิมพ์ทอง ผู้ตรวจสอบกิจการอ้างถึงหนังสือ เรื่องปัญหากองทุนสวัสดิการ ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ตามที่ท่านได้ทำหนังสือเรื่องปัญหากองทุนสวัสดิการ ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ครั้งที่ 20/2565 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ได้ร่วมกันพิจารณาหนังสือดังกล่าวเรียบร้อยแล้วและมีมติฯดังนี้
1. หนังสือดังกล่าวผู้ลงนามทั้งสองท่านไม่มีอำนาจกระทำการตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พ.ศ. 2558 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 100 ว่าด้วยหน้าที่ของผู้ตรวจสอบกิจการ จึงไม่สามารถจัดประชุมตามที่ ร้องขอได้ 2. ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ฯ ควรปฏิบัติตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พ.ศ. 2558
และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 100 ว่าด้วยหน้าที่ของผู้ตรวจสอบกิจการ และการรายงานผล หากข้อเท็จจริงปรากฎตาม
รายงานคณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของสหกรณ์และมวลสมาชิกต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสนอง สุดสะอาด)
ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
ด้าน ดร.สนอง สุดสะอาด ประธานกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า เงิน 2,400 ล้านบาทเศษ เป็นเงินค่าสมัคร เข้ามารวมเป็นกองทุนเรียกว่ากองทุน และคณะกรรมการก็จะเอาเงินส่วนนี้ไปลงทุน และมีผลกำไรเมื่อสมาชิก กองทุนฯเวลาเสียชีวิตลงทายาท จะได้รับสินไหม คนที่เสียชีวิตไปแล้ว ครั้นได้รับสินไหมไปแล้วก็ถือว่าจบ แต่เมื่อถ้ายกเลิกกองทุนเดิมไปแล้ว แต่ยังคงเหลือคนอีกส่วนหนึ่ง ที่ยังเป็นสมาชิกอยู่ ยังไม่ได้เสียชีวิต นายทะเบียน สั่งให้ยกเลิก จึงต้องยกเลิก ซึ่ง การก่อตั้งกองทุนฯเดิม ทำมาตั้ง 30 ปี แต่ได้มายกเลิกในยุคของท่านอนุศาสตร์ เมื่อยกเลิกไปแล้วนายทะเบียนได้สั่งให้คืนเงินแรกเข้า ถือว่าเป็นเงินบริจาค ไม่ใช่เงินมาฝาก ถ้าเป็นแบบนั้นสหกรณ์จะจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินฝากให้ นอกนั้นก็ไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยให้ เงินบริจาคแรกเข้านายทะเบียนได้ชำระส่งให้ แล้วสั่งให้คืนซึ่งจำนวนเงิน 2,457,287,565 บาท ซึ่งได้คืนด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชี ของสมาชิกแต่ละคนทั้งหมด ทุกคนคืนไปเรียบร้อยแล้วเงินก็ไม่ได้หายไปไหน ก็อยู่ในมือสมาชิกฯ และกองทุนเหล่านี้ก็หมดสภาพไป ส่วนกาคืนเงินนั้นอยู่ในช่วงที่ นายทะเบียนมีมติ โดยต้องคืนทันที
ส่วน ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษากรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า หลังจากนายทะเบียนสั่งให้คืน เงินแรกเข้าเป็นสมาชิกกองทุนเดิม มีมติในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มีมติให้ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียน จึงได้เริ่มคืนให้กับสมาชิก ตามลำดับจนเสร็จสิ้น นายทะเบียนให้ดำเนินการแล้วเสร็จคืนเงินภายใน 90 วัน และทางนายทะเบียนก็ขยายเวลาให้อีก 90 วัน จากจำนวนเงินที่มาก 2,400 ล้านกว่าบาท ทั้งหมดก็จ่ายโดยการโอนเข้าบัญชีสมาชิกกันทุกคน เรียบร้อยหมดหลักฐานมีที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด และตัวสมาชิกฯเองก็มีหลักฐาน ไม่มีใครมารับเงินสมาชิกได้เพราะใช้ระบบโอน เข้าบัญชีรายตัว เพราะฉะนั้นเงินไม่ได้หายไปไหนอย่างที่ท่านประธานได้ชี้แจง ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มีมติแล้ว ทางสหกรณ์ฯก็เริ่ม จ่ายตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมให้กับสมาชิกฯเรื่อยมา ตามลำดับแล้วจึงได้ รายงานต่อนายทะเบียน นายทะเบียนได้รับทราบ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งทางสมาชิกฯได้รับทราบ ในที่ประชุมใหญ่ฯ ก็รับทราบ
ดังนั้นจึงเรียนให้ทราบว่าเงินไม่ได้หายไปไหน ส่วนข่าวก็เป็นแค่ข่าวลือ สมาชิกส่วนใหญ่รู้ แต่คนที่พูดไม่รู้ข้อมูลเอง ส่วนการที่จะเอาความคดีกับทนายแดงหรือไม่นั้นทางประธานฯและสมาชิกฯ ต้องดูก่อนว่ามันเข้าระเบียบข้อบังคับ และกฎหมายข้อไหน ที่ท่านเป็นผู้ตรวจแล้วท่านมาทำอย่างนี้ ทำให้สหกรณ์และผู้แทนเสียหาย เดี๋ยวท่านประธานต้องวินิจฉัย กับคณะกรรมการในโอกาสต่อไป.